วันเสาร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Learning Log 3 (ในห้องเรียน)

นโยบายการเมืองการเปลี่ยนแปลง
     ปัจจุบันโลกของเรากำลังเข้าสู่ยุคการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ จารีตประเพณีวัฒนธรรมกำลังทุกกลืนหายไปจึงเป็นเหตุให้เกิดปัญหากับสังคม ผู้คนแก่งแย่งแข่งขัน ต้องการผลประโยชน์เพียงเพื่อตนเองเท่านั้น ประเทศไทยเป็นประเทศที่น่าอยู่มีความสวยงามและล้ำค่าของวัฒนธรรมประเพณีและยังเป็นแหล่งทรัพยากรที่สมบูรณ์อีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นประชากรไทยยังทุกทุกอย่างว่ามีจิตใจที่งดงามมีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ไม่ว่าจะกับชาวต่างชาติหรือคนไทยด้วยกันก็ตามแต่ประเทศไทยในทุกวันนี้เกิดความสับสนอลหม่านผู้คนแตกแยกมีการรบราฆ่าฟัน มีการทุจริตโกงกินชาติบ้านเมือง นั่นเป็นเพียงการกระทำของบุคคลบางกลุ่มเท่านั้นที่ต้องการอำนาจบาตรใหญ่ เบื่อที่จะกอบโกยผลประโยชน์ให้กับตนเองและพวกพ้องและจึงได้ใช้วิธีการต่างๆอย่างเช่นถ้าใช้นโยบายทางการเมืองปลูกฝังให้ผู้คนหลงใหลในวัตถุนิยม ใช่เพียงเท่านั้น พวกเขายังใช้นโยบายทางการเมืองทำลายระบบการศึกษาอีกด้วย

      นโยบายทางการเมืองของประเทศไทยในช่วงที่ตกอยู่ในภาวะวิกฤตที่ผ่านมา เป็นนโยบายที่สร้างผลเสียต่อประเทศอย่างมากเป็นเหตุให้สภาพทางเศรษฐกิจตกต่ำ ต่างประเทศไม่ไว้ใจในการลงทุน กล่าวคือนโยบายในช่วงนั้นเป็นนโยบายประชานิยมซึ่งนักการเมืองผู้ที่สร้างนโยบายดังกล่าวนี้ก็เป็นนักธุรกิจ นั่นเองและพวกเขาจะปลูกฝังค่านิยมที่ผิดๆให้แก่บุคคลปลูกฝังให้ผู้คนหลงใหลในวัตถุนิยมซึ่งรัฐบาลในสมัยนั้นใช้นโยบายดังกล่าวนี้ในการหาเสียง และหลังจากที่เขาได้รับเลือกตั้งเป็นรัฐบาลแล้วสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือพวกเขาได้นำนโยบายนี้มาใช้ทุกคนต่างก็เห็นด้วย จึงทำให้เกิดปัญหาต่างๆตามมาอย่างมากมาย อย่างเช่นนโยบายรถคันแรกนั้นทำให้บุคคลต้องการรถใหม่มาเพราะรัฐบาลลดหย่อนภาษี แต่คนไทยมีอะไรที่มากไปกว่านั้นคือดังเช่นที่ว่าเมื่อมีคนนึงได้รถใหม่มาแล้วอีกคนต้องการรถมาครอบครองด้วยเช่นกัน ความหลงใหลในวัตถุนิยมนั่นเอง ซึ่งจะก่อตัวขึ้นกับคนไทยแล้วเนื่องจากนโยบายรัฐบาลและ

      ระบบการศึกษาของประเทศไทยในทุกวันนี้ประสิทธิภาพกำลังถดถอยลงไปเป็นอย่างมาก จะเห็นได้จากการจัดอันดับทางการศึกษาในระดับต่างๆของโลก ระบบการศึกษาที่ย่ำแย่นี้อาจเกิดขึ้นจากหลายปัจจัยที่ แต่ที่ผ่านมาปัจจัยที่ทำให้ระบบการศึกษาเสื่อมลงหลักๆก็คือ การบริหารงานของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมาก็จะกล่าวได้ว่าเป็นการนำนโยบายต่างๆมาทำลายระบบการศึกษาเพียงเพราะผลประโยชน์ต่อการผูกมัดอำนาจของพวกนักการเมือง หรือจะพูดอีกทาง 1 ก็คือระบบการศึกษาเป็นระบบที่ผลิตประชากรของประเทศให้มีคุณภาพเข้าสู่สังคมและไปพัฒนาประเทศต่อไป แต่ถ้าหากพวกเขาสามารถทำลายระบบการศึกษาได้จากประชากรในประเทศก็จะตกอยู่ในมือของพวกเขาหรือจะพูดไปในทางที่ตรงไปตรงมาก็คือ พวกเขาต้องการให้คนโง่เพื่อที่จะสามารถปกครองได้ง่าย มีการกำหนดมาตรการทางการศึกษาที่ต่างไปจากเดิมอย่างเช่นการออกมาตราการห้ามไม่ให้ครูตีนักเรียน หรือไม่ว่าจะเป็นมาตรการห้ามสั่งการบ้านนักเรียนเป็นต้น มาตรการเหล่านี้ล้วนเป็นมาตรการทำลายระบบการศึกษาให้แย่ลง

      ปัจจัยที่เป็นปัญหาและทำให้สังคมย่ำแย่ในปัจจุบันเกิดจากกลุ่มคนเพียงไม่กี่คนที่ต้องการผลประโยชน์เพียงเพื่อตนเองและพวกพ้อง ปัญหาทางสังคม 2 ปัญหาดังกล่าวที่จะยกมากันต้นเป็นปัญหาที่คล้ายคลึงกัน ปัญหาแรกเป็นการปกป้องผู้คนให้หลงใหลในวัตถุนิยมพร้อมที่จะเป็นทาสของเงิน ปัญหาที่ 2 เป็นการทำลายระบบทางการศึกษาที่เป็นปัญหาที่เลวร้ายมากเพราะเป็นการทำไล่เด็กและเยาวชนซึ่งเป็นอนาคตของประเทศในวันข้างหน้า พวกนักการเมืองเหล่านี้สามารถใช้นโยบายของเค้าได้สำเร็จลองคิดดูซิว่าประเทศไทยในวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น