วันเสาร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Learning Log 1 (ในห้องเรียน)

            ในประโยคภาษาไทยกับภาษาอังกฤษมีความแตกต่างกัน คือ ในประโยคภาษาอังกฤษจะมีคำกริยาที่บ่งบอกกาล อย่างชัดเจนว่า เกิดขึ้นเมื่อไร เกิดขึ้นแล้วหรือจะเกิดขึ้น หรือเกิดขึ้นแล้วในอดีต และยังดำเนินต่อไปในปัจจุบัน แต่ในประโยคภาษาไทยจะไมาบ่งบอกกาลในกริยา จะดูได้จากกริยาวิเศษณ์
            ปัญหาที่เกิดขึ้นจากการแปลประโยคภาษาอังกฤษที่มีการใช้กาลต่างกัน อาจจะแปลเป็นภาษาไทยที่ไม่มีข้อแตกต่างอะไรเลย จึงเกิดปัญดหาในเรื่องของข้อเท็จจริง ดังประโยคดังต่อไปนี้

                1. He lived in Lampang for a year.
                2. He has lived in Lampang for a year.
               จะเห็นได้ว่าทั้งสองประโยคนี้มีความแตกต่างกันที่กริยา ที่จะบ่งบอกเวลาได้อย่างชัดเจน เราจะแปลภาษาไทยโดยยึดหลักการว่าจะต้องสั้น กระชับรัดกุม 
                ประโยคที่ 1 แปลได้ว่า เขาเคยอยู่ลำปางปีหนึ่ง
                ประโยคที่ 2 แปลได้ว่า เขาอยู่ลำปางมาปีหนึ่งแล้ว
                ในการแปลเราจะต้องเข้าใจกาลนั้นเป็นอย่างดี และเทคนิกอื่นๆ อีกมากมาย จะต้องตีความให้ได้ว่ากาลในลักษณะนั้นหมายความว่าอย่างไร มีความรู้ในเรื่องการใช้คำขยายเวลาในภาษาไทยเพื่อให้ประโยคเป็นไปตามกิจลักษณะ
 
                ในการแปลกาล(tense) แต่ละกาลหลักสำคัญก็คือ เราต้องเข้าใจความหมายของแต่ละ tense อย่างถูกต้องแม่นยำ และทราบหลักการใช้ว่า tense ควรใช้ในช่วงเวลาที่กำลังเกิดขึ้น ได้เกิดขึ้นไปแล้ว หรือกำลังจะเกิดในอนาคต

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น