วันเสาร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Learning Log 2 (นอกห้องเรียน)

conditional sentence
การสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญเป็นอย่างมากในการใช้ชีวิตประจำวัน เราทุกคนล้วนต้องใช้ภาษาเป็นสื่อกลางในการสื่อส่ร เป็นที่แน่นอนอยู่แล้วว่าจะเป็นภาษาใดก็ตามแต่ล้วนมีหลักการ โครง หรือรูปแบบประโยคที่ต่างกันออกไป แต่ ณ ที่นี้จะพูดถึงเรื่องประโยคเงื่อนไขในภาษาอังกฤษ หรือ conditional sentence มีหลายคนที่รู้จักกันในนาม if clause ซึ่งจะประกอบด้วยอนุประโยค สองประโยค มีประโยคหนึ่งที่ขึ้นต้นด้วย if กับอีกประโยคหนึ่งซึ่งมีหน้าตาคล้ายกับประโยคที่สมบูรณ์ปกติธรรมดาทั่วไป ถึงอย่างไรก็ตามประโยคสองประโยคดังกล่าว สามารถสลับกัยได้ซึ่งจะขึ้นอยู่กับการเน้นความหมาย ว่าจะให้ไปในทิศทางใด ประโยคเงื่อนไขนี้มีหลายลักษณะ แต่ละตำราได้ให้ความหมายและนิยามที่แตกต่างกัน จากการที่ได้ศึกษาค้นคว้าและรวบรวมข้อมูลมานี้สามารถสรุปได้ว่า If clause มี 4 ลักษณะหลักๆ คือ   zero conditional sentence, first conditional sentence, second conditional sentence, third conditional sentence โดยจะมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
zero conditional sentence เป็นประโยคที่ใช้กับเหตุการ์ที่เป๋นความจริงหรือเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงโดยทั่วไป โดยจะใช้โครงสร้างของ present simple ทั้งสองประโยคมีโครงสร้างดังนี้ IF+present simple+present simple. สามารถอธิบายได้ดังนี้ zero conditional sentence ใช้พูดถึงกรณีที่เกิดสิ่งหนึ่ง และอีกสิ่งหนึ่งย่อมเกิดขึ้นตามมาด้วยเสมอ เช่น If water reaches 100 degrees, it boils. เมื่ออุณหภูมิน้ำสูงเท่ากับ100องศาเซียลเซสน้ำก็จะเดือดเสมอ หรือ If I eat peanut, I am sick. ถ้าฉันกินถัวลิสงฉันจะแพ้ ซึ่งในประโยคเช่นนี้เราสามารถใช้คำว่า when แทน if ก้ได้เช่นกันนอกจากนี้ ยังมีประโยคที่ช่วยให้เข้าใจมากยิ่งขึ้น
If people eat too much, they get flat.
If you touch a fire, you get burned.
People die if they don't eat.
first conditional sentence จะใช้กับเหตุการณืที่เป็นเหตุผลซึ่งกันและกัน ประโยคในลักษณะนี้ใช้สำหรับ พูดว่าถ้าสิ่งหนึ่งเกิดขึ้น อีกสิ่งหนึ่งจะเกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้นก็ได้ โดยมีโครงสร้าง If+present simple+future simple ใช้พูดถึงเหตุการณ์เฉพาะซึ่งอาจจะเป็นไปได้ หรือผู้พูดคิดว่าจะเกิดขึ้น  เช่น
If it rains, I won't go to the park.
If I study, I'll go to the party tonight.
If I have enough money, I'll buy some new shoes.
second conditional sentence ใช้กับเหตุการณ์ที่ตรงกันข้ามกับความจริงในปัจจุบัน หรืออนาคต ใช้พูดถึงสิ่งที่ผู้พูดคิดว่าไม่น่าจะเกิดขึ้น ในประโยคแบบนี้มีโครงสร้าง If+past simple+would+v.1 แต่จะมีข้อสังเกตอยู่ว่าอนุประโยคหลัง If ถ้าคำกริยาเป็น v.to be จะใช้ were กับประธานได้ทุกตัว เช่น If I were you หรือจะใช้ was ก็ได้ เราสามารถใช้พูดถึงความใฝ่ฝันว่าอยากให้เกิดอะไรขึ้นในอนาคตแต่อาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้
If I won the lottery, I would buy a big house.
If I met the queen of England, I would say hello.
She would pass exam if she ever studied.
  third conditional sentence ใช้กับเหตุการณ์ที่ตรงกันข้ามกับความจริงในอดีต จะมีรูปแบบประโยค คือ If+past perfect+would have+v.3 ใช้พูดเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง ว่าถ้ามันเกิดขึ้นแล้วมันจะเป็นอย่างไร
If I had studied, she would has pass exam.
If I hadn't eaten so much. I wouldn't have felt sick.
If we had taken a taxi, we wouldn't have miss the plane.
ในความจริงแล้วประโยค conditional เป็นประโยคที่มีความซับซ้อนอยู่ไม่น้อย มันทำให้เกิดความสับสนเป็นอย่างมากเมื่อไปอ่านเจอในหนังสือ หรือมีการสื่อสารกัลบุคคลอื่น ด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้ที่่ทำให้ผมต้องศึกษาและรวบรวมข้อมูลใหม่อีกครั้ง เพื่อที่จะเพิ่มความเข้าใจในตัวภาษาอังกฤษให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น